เดือนธันวาคมมาถึงทีไร เราก็มีความรู้สึกอยากจะไปเที่ยวต่างประเทศอีกสักครั้งหนึ่ง
สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น จังหวัดฮอกไกโดเป็นอีกหนึ่งในจังหวัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงเดือนนี้ เพราะเป็นจังหวัดที่ทั้งสวย อากาศดี อาหารอร่อย ที่เที่ยวเยอะ และอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าไหร่
หากใครได้ลองมาสักครั้งหนึ่งก็จะติดใจอยากมาอีกเรื่อยๆ
เรามาดูกันดีกว่าว่า สถานที่เที่ยวเด็ดๆของฮอกไกโดในเดือนธันวาคมนั้น มีอะไรบ้าง
Contents
ข้อดี
ก่อนอื่นเลย เรามาดูกันดีกว่า ข้อดีของการไปเที่ยวจังหวัดฮอกไกโดในช่วงเดือนธันวาคมกันก่อนดีกว่า
หิมะสวย
ฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพและปริมาณหิมะเป็นอย่างมาก โดยหิมะอาจจะเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนกันเลยทีเดียว
ในด้านคุณภาพหิมะของฮอกไกโดนั้น เราสามารถเห็นเป็นเกล็ดหิมะสวยงามได้อย่างชัดเจน ซึ่งหาดูไม่ได้จากจังหวัดอื่นของประเทศญี่ปุ่น
ในส่วนของปริมาณนั้น หิมะที่ฮอกไกโดมีความหนาและฟู และมีความฟุ้งที่มาก จนกระทั่งมีคนไทยหลายๆคนอยากจะนำน้ำแดงมาราดแล้วทำน้ำแข็งเกล็ดหิมะทานกันเลยทีเดียว
ในช่วงเดือนธันวาคมนั้น เราจะเริ่มเห็นหิมะปกคลุมทั่วทั้งเมือง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราไป และสองข้างทางต่าง
ฉะนั้นแล้ว หากเราอยากเห็นเมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ บนบ้านเมืองและธรรมชาติที่สวยเราไม่จำเป็นต้องบินไปไกลถึงยุโรป แต่เราสามารถมาดูได้ที่ฮอกไกโด
เมืองตกแต่งด้วยไฟอย่างสวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของจังหวัดฮอกไกโดนั้น จะเริ่มประดับไฟตกแต่งอย่างสวยงามตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ทำให้เมืองและสถานที่ต่างๆของฮอกไกโดที่สวยอยู่แล้วนั้น มีความสวยงามขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
และที่สำคัญเราสามารถเดินชมไฟ สถานที่ท่องเที่ยว และเมืองเหล่านั้นได้ฟรี โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าเข้าชมใดๆทั้งสิ้น
วันหยุดยาวเยอะ
เดือนธันวาคมนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนที่มีช่วงวันหยุดยาวเยอะที่สุดของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดยาวในช่วงวันพ่อถึงวันรัฐธรรมนูญ และช่วงหยุดยาวในช่วงวันขึ้นปีใหม่
หากใครทำงานกับบริษัทต่างชาติ อาจจะช่วงหยุดยาวในช่วงวันคริสมาสเพิ่มเติมขึ้นมาอีก
ทำให้เราสามารถมาเที่ยวได้อย่างเต็มที่หลายๆวัน โดยที่ไม่ต้องลางานเพิ่มเลยด้วยซ้ำ
ข้อเสีย
แม้ว่าช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เรามาดูกันดีกว่าว่าข้อเสียมีอะไรบ้าง
ตั๋วเครื่องบินแพง
หากใครบินมาฮอกไกโดช่วงเดือนธันวาคม อาจจะต้องทำใจกับราคาตั๋วเครื่องบินที่พุ่งสูงขึ้นสักหน่อย เพราะเดือนนี้เป็นเดือนยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาสูงกว่าปกติ
โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวอย่างวันพ่อ วันรัฐธรรมนูญ วันคริสมาสตร์ และวันสิ้นปี
หากใครไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า บางครั้ง ตั๋วไปกลับกรุงเทพจากการบินไทยในชั้นประหยัดอาจจะมีราคาถึง 40,000 – 50,000 บาทต่อคน
ฉะนั้นแล้ว หากใครวางแผนอยากมาเที่ยวฮอกไกโดช่วงเดือนธันวาคม อาจจะต้องจองตั๋วเครื่องบินไว้แต่เนิ่นๆ ไม่งั้น ราคาตั๋วอาจจะถูกพุ่งสูงจนเกินไป
ขับรถยาก
หากใครวางแผนที่จะไปขับรถฮอกไกโดในช่วงหน้าหนาวนั้น ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถนนบางแห่งจะกลายเป็นน้ำแข็งและลื่น ทำให้ควบคุมรถได้ยาก เบรคไม่ค่อยอยู่ และเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ถึงแม้ว่าจะใช้ยางแบบไว้สำหรับขับบนหิมะแล้วก็ตาม
ในบางวันอาจจะมีหิมะตกหนัก จะยิ่งทำให้ขับยากเป็นพิเศษ เพราะทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี แล้วถนนอาจจะลื่นกว่าเดิม
ถ้าเราขับรถออกนอกตัวเมือง บางเส้นทางอาจจะถูกปิด เพราะมีปริมาณหิมะที่หนาเกินไป และเสี่ยงต่อหิมะถล่มได้
ฉะนั้นแล้ว หากใครอยากจะไปเช่ารถขับในช่วงนี้ นอกจากจะต้องศึกษากฎจราจรให้ดีแล้ว เราต้องขับอย่างระมัดระวัง ใช้เบรคให้ถูกวิธี และเว้นระยะห่างจากคันหน้าพอสมควร
แต่ถ้าหากใครไม่มั่นใจ และอยากนั่งรถเที่ยวแบบสบายๆ ก็ใช้บริการให้เราหาคนขับรถท้องถิ่นพร้อมวางแผนเที่ยวแบบส่วนตัวได้
มืดเร็ว
ในช่วงเดือนธันวาคมและหน้าหนาวของประเทศญี่ปุ่นนั้น จะค่อนข้างมืดเร็วเป็นพิเศษ
โดยพระอาทิตย์จะเริ่มตกตั้งแต่ช่วงสี่โมงเย็น และอาจจะตกสนิทเรียบร้อยไปในตอนห้าโมงเย็น ทำให้เรามีเวลาเที่ยวน้อยกว่าปกติ
ส่วนพระอาทิตย์จะขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า
ฉะนั้นแล้ว หากใครไปฮอกไกโดในช่วงเวลานี้แล้วอยากจะเที่ยวเต็มวัน อาจจะต้องยอมนอนเร็วแล้วตื่นเช้าสักหน่อย
ที่เที่ยว
หลังจากดูข้อดีข้อเสียแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าที่เที่ยวเด่นๆในเดือนนี้มีอะไรบ้าง
โดยในบทความนี้นั้น เราคัดมาแค่จุดเด่นๆภายในเดือนนี้เท่านั้น แต่จริงๆแล้ว ที่ฮอกไกโดยังมีสถานที่เที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ที่เราสามารถไปในเดือนนี้
สวนโอโดริ
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนช่วงประมาณวันคริสมาสตร์ในเดือนธันวาคมของทุกปี ทีสวนโอโดริ หรือสวนสาธารณะแห่งใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร จะมีจัดเทศกาล Winter White Illumination โดยจะมีการประดับไฟเป็นรูปต่างๆตามต้นไม้และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรอบๆสวน
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีจัดงานเทศกาล German Christmas Market ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินอยู่ในตลาดในประเทศเยอรมันที่มีของขายและเครื่องประดับสำหรับวันคริสมาตร์อย่างมากมาย หากใครโชคดีอาจจะได้เจอซานต้าอีกด้วย
หากใครมาเดินสวนโอโดริในตอนนี้ ก็อย่าลืมเดินไปถ่ายรูปสวยๆที่อาคารรัฐบาลเก่า หอนาฬิกาซัปโปโร หรือจะขึ้นไปชมเมืองซัปโปโรจากมุมสูงที่หอ Sapporo TV Tower ด้วยก็ได้
โรงงานช๊อกโกแลต
นอกจากสวนโอโดริแล้ว หากใครไปเกาะฮอกไกโดในช่วงเดือนธันวาคม ให้แวะไปที่โรงงานช๊อกโกแลตที่ซัปโปโรในช่วงเย็นๆค่ำๆ เพราะที่นั้นก็ก็มีจัดงาน Winter Illumination เช่นเดียวกัน
ภายในงานนั้น จะมีการประดับไฟบนสิ่งก่อสร้างๆต่างๆทั้งภายในและภายนอกของโรงงาน ซึ่งจะทำให้ความสวยงามของโรงงานที่มีความสวยงามอยู่แล้ว ยิ่งสวยงามทวีคูณขึ้นไปอีก
ถ้าแวะไปโรงงานช๊อกโกแลตแล้ว ก็อย่าลืมไปซื้อ “ชิโระอิ โคฮิบิโตะ” แบบลิมิตเต็ด ที่มีขายแค่ที่นี้ที่เดียวมาลองชิมหรือซื้อเป็นของฝากด้วยหล่ะ
สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ
หากใครอยากเห็นความน่ารักของขบวนพาเหรดเพนกวิ้นตัวอวบๆเดินท่ามกลางหิมะสวยๆ ต้องไปที่สวนสัตว์อาซาฮิคาวะเท่านั้น
โดยในช่วงประมาณบ่าย 2 ครึ่งของทุกวัน ทีมงานสวนสัตว์จะเริ่มพาเจ้าเพนกวิ้นที่เลี้ยงไว้ ออกมาโชว์ตัวเดือนพาเหรดให้เราได้เห็น
ความพิเศษของขบวนพาเหรดนี้ก็คือนกเพนกวิ้นรู้หน้าที่ของตัวเอง และจะคอยเดินพาเหรดเองในทางที่สวนสัตว์จัดไว้ให้ โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางกันเลยทีเดียว
เราสามารถชมขบวนพาเหรดและถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากพาเหรดเพนกวิ้นแล้ว ที่สวนสัตว์ยังมีสัตว์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมีขาว แมวน้ำ แพนด้าแดง หมาป่า กวางเรนเดียร์ นกฮูก
น้ำตกสีฟ้า
แม้ว่าในช่วงเดือนธันวาคมนี้ น้ำตกอาจจะกลายเป็นน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว เรายังคงเห็นน้ำที่เป็นสีฟ้าอย่างชัดเจน ทั้งจากที่ตัวน้ำตกเองและจากลำธาร
สิ่งที่พิเศษที่สุดของน้ำตกสีฟ้าในช่วงหน้าหนาว ก็คือวิวของต้นไม้และภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสุดลูกหูลูกตา ที่เราหาชมไม่ได้จากฤดูอื่นๆ
หากใครไปที่น้ำตกสีฟ้าในช่วงเดือนนี้ อย่าลืมแวะไปที่บ่อน้ำสีฟ้าข้างๆในช่วงประมาณตั้งแต่ 17.30 – 21.00 เพราะในบางวันที่บ่อน้ำสีฟ้าจะมีจัดงานประดับไฟขึ้นและสะท้อนสีหิมะขึ้นอย่างสวยงาม
คลองโอตารุ
ช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีนั้น ที่เมืองโอตารุจะมีจัดงาน Light Path Festival โดยจะประดับไฟตกแต่งตามทางเดินริมคลองโอตารุ ทำให้เมืองแห่งนี้ที่ขึ้นชื่อว่าเมืองโรแมนติกอยู่แล้ว มีความโรแมนติกยิ่งขึ้นไปอีก
โดยหากใครอยากจะมาเดินถ่ายรูปสวยๆกินบรรยากาศความงามของคลองโอตารุช่วงที่เปิดไฟแล้วนั้น ต้องมาช่วงที่เริ่มมืดหน่อยตั้งแต่เวลาประมาณ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
หลังจากที่เราเดินริมคลองเสร็จแล้ว อย่าลืมไปเดินที่ถนนคนเดินของเมืองโอตารุ แวะชิมขนมจากคาเฟ่ห์ต่างๆ รวมทั้งไปเดินชมความสวยงามของร้านขายกล่องดนตรี ถ่ายรูปคู่กับนาฬิกาไอน้ำ หรือใครอยากจะไปดูโรงงานเป่าแก้วก็สามารถเดินไปดูได้อย่างง่ายๆ
ดูนกกระเรียนที่คุชิโระ
นกกระเรียนเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และเรามักจะได้ยินชื่อนกนี้บ่อยๆไม่ว่าจะเป็นจากละครทีวี การ์ตูน หรือการแสดงต่างๆ อีกทั้งสายการบินแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Japan Airlines ก็ใช้นกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ของสายการบินตนเองอีกด้วย
แต่รู้ไหมว่านกกระเรียนญี่ปุ่นนี้นั้น ในขณะนี้เกือบสูญพันธุ์ไปหมดเรียบร้อยแล้ว และมีแค่ที่เดียวในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่เรายังสามารถเห็นฝูงนกกระเรียนตามธรรมชาติได้ ที่นั้นก็คือเมืองคุชิโระนั้นเอง
สิ่งที่พิเศษในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีนี้ เป็นช่วงดูนกกระเรียนโดยเฉพาะ เพราะในช่วงนี้ เป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์ มีนกกระเรียนที่อาศัยอยู่ที่เมืองคุชิโระแห่งนี้นั้น ออกมาทำการ “เต้น” เพื่อหาคู่
โดยเราสามารถรับชมนกกระเรียนเต้นหาคู่ได้ในชุดต่างๆของเมืองคุชิโระ ทั้งบนพื้นหิมะสีขาว หรือทั้งทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งในช่วงนี้
เล่นกิจกรรมหิมะ
แน่นอนว่าเรามาที่ฮอกไกโดหน้าหนาวทั้งที เราต้องลองไปที่ลานสกีต่างๆ เพื่อให้เห็นกับตาว่า”หิมะแบบพาวเดอร์สโนว์”ที่เค้าว่ากันว่ามันหนาและนุ่มเนี่ย หน้าตาเป็นอย่างไร
รวมทั้งลานสกีพวกนี้ไม่ได้มีแค่สกีเท่านั้น แต่จะมีกิจกรรมหิมะอื่นๆให้เราเล่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล สโนว์เสล็ด
หากใครไม่สามารถเล่นกิจกรรมหิมะได้ ก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขาและถ่ายรูปสวยๆได้
ที่ฮอกไกโดมีลานสกีจำนวนมาก โดยสามลานสกียอดนิยมของเกาะนี้คงหนีไม่พ้นที่คิโรโระ นิเซโก้ และฟุราโนะ
แต่ละลานสกีก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น ที่คิโรโระจะอยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโรและโอตารุ ทำให้เดินทางสะดวก มีลานสกีที่ใหญ่และเหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่
ลานสกีที่นิเซโก้มีขนาดใหญ่มากและมีคุณภาพที่ดีไม่แพ้คิโรโระ แถมเรายังสามารถมองเห็นภูเขาไฟโยะเทอิ หรือที่รู้จักกันในนามภูเขาไฟฟูจิของฮอกไกโดได้อีกด้วย
ส่วนฟุราโนะนั้น แม้ลานสกีอาจจะไม่ใหญ่เท่าที่อื่น แต่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่คิโรโระและนิเซโก้อย่างสิ้นเชิง เพราะลานสกีและเมืองโดยรอบจะมีลักษณะความเป็นญี่ปุ่นมากกว่า
ส่วนเราจะไปเล่นที่ลานสกีไหนนั้น ให้ดูที่แผนการเที่ยวของเราเป็นหลัก และให้ไปในลานสกีเหมาะที่สุดสำหรับทริปของเรา
เตรียมตัวยังไงดี
วิธีการเตรียมตัวไปเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคมนั้น หลักๆเลยคือเราต้องเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวของเราให้ดี เพราะถ้าอุปกรณ์เราพร้อม เราจะยังคงสามารถเดินทางในอากาศหนาวเป็นเวลานานๆได้
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว เราต้องวางแผนเที่ยวของเราให้รัดกุมมากกว่าปกติ เพราะว่าช่วงนี้จะมืดเร็ว และบางเส้นทางอาจจะปิดเพราะหิมะได้
ถ้าเป็นไปได้ ให้เราทำประกันเดินทางไปด้วย โดยเฉพาะใครก็ตามที่มีแผนจะไปเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆ อีกทั้งเราอาจจะลื่นล้มเพราะไม่ชินกับทางเดินที่กลายเป็นน้ำแข็งก็เป็นได้
สุดท้ายนี้อย่าลืมพกยาประจำตัวส่วนบุคคลไปด้วย
สุดท้ายนี้
มีที่เที่ยวมากมายที่เราสามารถไปได้ที่เกาะฮอกไกโดในช่วงเดือนธันวาคม เราอาจจะไม่จำเป็นต้องไปในสถานที่ที่เราเขียนไว้ในบทความนี้ก็ได้ เพราะบางครั้ง ร่างกายเราก็ต้องการแค่การไปนั่งในสถานที่สวยๆ และกินอาหารอร่อยๆ ซึ่งเราสามารถหาได้ทั่วไปจากในจังหวัดฮอกไกโด
เพราะการเที่ยวที่ดีที่สุด คือการเที่ยวที่เหมาะกับสไตล์ของเราที่สุดนั้นเอง